Posted on
เครื่องวัดน้ำตาล

                ผู้เป็นเบาหวานที่ยังมือใหม่กับการต้องตรวจวัดระดับน้ำตาลในเลือดในตัวเอง อาจจะยังสับสนว่าควรเจาะเลือดตรวจน้ำตาลกี่ครั้ง และตอนไหน เมื่อไหร่ดี เพราะข้อมูลในอินเทอร์เน็ตนั้นมีมากมายเหลือเกิน บางครั้งเจอว่าให้ตรวจวันละ 3-4 ครั้ง แต่บางครั้งก็ว่าให้เจาะบ่อยถึงวันละ 6 ครั้งเลยทีเดียว และซ้ำร้ายกว่านั้น บางแหล่งข้อมูลมีบอกแค่จำนวนครั้ง แต่ไม่ได้บอกว่าเป็นช่วงเวลาไหนของวันไว้ด้วย

                เพื่อให้ทุกคนที่กำลังหาข้อมูลอยู่ ได้ค่าน้ำตาลที่ถูกต้อง เหมาะสมที่สุด เราชวนมาหาคำตอบพร้อมกันกับบทความนี้

ความถี่ที่ดีในการใช้เครื่องวัดน้ำตาลในเลือด

                จำนวนครั้งในการใช้เครื่องวัดน้ำตาลสำหรับเจาะเลือด และเก็บบันทึกค่าน้ำตาลในเลือด ขึ้นอยู่กับลักษณะและความรุนแรงของโรคในแต่ละบุคคล เพราะเบาหวานเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ เช่น พันธุกรรม  อายุที่เพิ่มขึ้น พฤติกรรมการใช้ชีวิต การตั้งครรภ์ เป็นต้น ดังนั้นความถี่ในการตรวจวัดระดับน้ำตาลจึงแตกต่างกันออกไป ดังนี้

  • ผู้เป็นเบาหวานที่ฉีดอินซูลินวันละ 3 ครั้งขึ้นไป ควรตรวจวัดระดับน้ำตาลในเลือดวันละ 3 ครั้ง
  • ผู้เป็นเบาหวานที่ฉีดอินซูลินวันละ 2 ครั้ง ควรตรวจวัดระดับน้ำตาลในเลือดวันละ 2 ครั้ง
  • ผู้เป็นเบาหวานที่ฉีดอินซูลินวันละ 1 ครั้งก่อนนอน ควรตรวจวัดระดับน้ำตาลในเลือดวันละ 1 ครั้ง
  • ผู้เป็นเบาหวานขณะตั้งครรภ์ ควรตรวจวัดระดับน้ำตาลในเลือดรวมวันละ 7 ครั้ง แต่อาจลดจำนวนครั้งลงได้ เมื่อควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้ดีแล้ว

ช่วงเวลาที่ดีในการใช้เครื่องวัดน้ำตาล

            สิ่งที่ผู้เป็นเบาหวานควรรู้คือ น้ำตาลตามธรรมชาติ ที่ได้จากผัก ผลไม้ นม และคาร์โบไฮเดรตอื่นๆ ส่วนใหญ่จะเป็นน้ำตาลโมเลกุลเดี่ยว ที่ร่างกายมนุษย์สามารถดูซึมเข้าสู่ร่างกายได้ทันที และลำเลียงผ่านกระแสเลือดเพื่อไปเป็นพลังงานของร่างกายได้อย่างรวดเร็ว ทำให้หลังทานอาหาร คนเราจะมีค่าน้ำตาลในเลือดสูงขึ้นมาก และจะค่อยๆ ลดลงสู่สภาวะปกติ เมื่อน้ำตาลเหล่านั้นถูกเผาผลาญจนหมด หรือถูกจัดเก็บในรูปแบบไขมันเรียบร้อยแล้ว(ประมาณ 2 ชั่วโมงหลังทานอาหาร)

                ดังนั้นช่วงเวลาในการตรวจวัดค่าน้ำตาลที่จะให้ข้อมูลได้แม่นยำมากที่สุด คือ ก่อนทานอาหาร โดยเฉพาะมื้อเช้าที่ยังร่างกายเพิ่งตื่นจากการพักผ่อน หากใครต้องตรวจค่าน้ำตาลวันละ 1 ครั้ง ช่วงนี้จะเป็นช่วงที่เหมาะสมที่สุด แต่หากจำเป็นต้องตรวจบ่อยครั้ง ก็ให้ปรับเปลี่ยนโดยอ้างอิงหลักเกณฑ์นี้เช่นกัน เช่น ผู้ที่ต้องตรวจวันละ 3 ครั้ง ให้ตรวจก่อนอาหารทั้ง 3 มื้อ โดยต้องทิ้งห่างระหว่างมือประมาณ 2 ชั่วโมง ส่วนผู้ที่ต้องตรวจวันละ 7 ครั้ง ให้ตรวจก่อนและหลังอาหารทั้ง 3 มื้อ และก่อนนอน โดยทิ้งห่างครั้งละ 1-2 ชั่วโมง เป็นต้น

                โดยค่าน้ำตาลสำหรับผู้ใหญ่ที่เป็นโรคเบาหวานชนิดที่ 1 และชนิดที่ 2 ก่อนทานอาหารแต่ละมื้อ ควรอยู่ระหว่าง 80-130 มิลลิกรัม/เดชิลิตร และระดับน้ำตาลหลังทานอาหาร 2 ชั่วโมง ควรน้อยกว่า 180 มิลลิกรัม/เดชิลิตร

เครื่องวัดน้ำตาลที่ดีสำหรับผู้เป็นเบาหวาน

            เมื่อรู้ข้อมูลทั้งความถี่และช่วงเวลาที่เหมาะสมในการตรวจวัดน้ำตาลในเลือดแล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่ไม่ควรมองข้ามคือ “เครื่องวัดน้ำตาล” อุปกรณ์ที่จะช่วยให้ค่าน้ำตาลที่วัดได้มีความแม่นยำมากที่สุด และช่วยเพิ่มความสะดวกสบายในกรณีที่ต้องตรวจน้ำตาลเป็นประจำทุกวัน

                ฉะนั้นฟังก์ชั่นที่ควรมองหาเวลาจะเลือกซื้อเครื่องวัดน้ำตาลสักเครื่องคือ ใช้งานง่าย ไม่ยุ่งยาก อ่านค่าได้อย่างรวดเร็ว และสามารถเรียกดูค่าน้ำตาลเฉลี่ยย้อนหลังได้ละเอียดถึงรายสัปดาห์ รายเดือน และไตรมาส อย่าง Accu-Chek Active เครื่องวัดน้ำตาลที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการของผู้เป็นเบาหวาน ด้วยคุณสมบัติ

  • ใช้งานง่าน
  • ใช้เวลาอ่านค่าเพียง 5 วินาที
  • เรียกดูค่าน้ำตาลเฉลี่ย 7/ 14 / 30 และ 90 วัน

ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติม คลิก https://www.accu-chek.co.th/accu-chek-active